ประมวลกฎหมายอาญา

สารบาญ ประมวลกฎหมายอาญา ปรับปรุงล่าสุด พ.ศ.2564

---------------------------
✅✅✅กรุณาคลิกที่มาตราเพื่อดูรายละเอียด 

ภาค 1 บทบัญญัติทั่วไป  

          ลักษณะ ๑ บทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดทั่วไป
               หมวด ๑ บทนิยาม มาตรา 1
               หมวด ๒ การใช้กฎหมายอาญา มาตรา 2 - 17
               หมวด ๓ โทษและวิธีการเพื่อความปลอดภัย
                    ส่วนที่ ๑ โทษ มาตรา 18 - 38 
                    ส่วนที่ ๒ วิธีการเพื่อความปลอดภัย มาตรา 39 - 50
                    ส่วนที่ ๓ วิธีเพิ่มโทษ ลดโทษ และการรอการลงโทษ มาตรา 51 - 58
               หมวด ๔ ความรับผิดในทางอาญา มาตรา 59 - 79
               หมวด ๕ การพยายามกระทำความผิด มาตรา 80 - 82
               หมวด ๖ ตัวการและผู้สนับสนุน มาตรา 83 - 89
               หมวด ๗ การกระทำความผิดหลายบทหรือหลายกระทง มาตรา 90 - 91
               หมวด ๘ การกระทำความผิดอีก มาตรา 92 - 94
               หมวด ๙ อายุความ มาตรา 95 - 101
          ลักษณะ ๒ บทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดลหุโทษ มาตรา 102 - 106

ภาค 2 ความผิด 

          ลักษณะ ๑ ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
               หมวด ๑ ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มาตรา 107 - 112
               หมวด ๒ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายใน ราชอาณาจักร มาตรา 113 - 118
               หมวด ๓ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอก ราชอาณาจักร มาตรา 119 - 129
               หมวด ๔ ความผิดต่อสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ มาตรา 130 - 135
          ลักษณะ ๑/๑ ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย มาตรา 135/1 - 135/4
          ลักษณะ ๒ ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง
               หมวด ๑ ความผิดต่อเจ้าพนักงาน มาตรา 136 - 146
               หมวด ๒ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มาตรา 147 - 166
          ลักษณะ ๓ ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม
               หมวด ๑ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม มาตรา 167 - 199
               หมวด ๒ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม มาตรา 200 - 205
          ลักษณะ ๔ ความผิดเกี่ยวกับศาสนา มาตรา 206 - 208
          ลักษณะ ๕ ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน มาตรา 209 - 216
          ลักษณะ ๖ ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน มาตรา 217 - 239
          ลักษณะ ๗ ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง
               หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา มาตรา 240 - 249
               หมวด ๒ ความผิดเกี่ยวกับดวงตรา แสตมป์และตั๋ว มาตรา 250 - 263
               หมวด ๓ ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร มาตรา 264 - 269
               หมวด ๔ ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มาตรา 269/1 - 269/7
               หมวด ๕ ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง มาตรา 269/8 - 269/15
          ลักษณะ ๘ ความผิดเกี่ยวกับการค้า มาตรา 270 - 275
          ลักษณะ ๙ ความผิดเกี่ยวกับเพศ มาตรา 276 - 287
          ลักษณะ ๑๐ ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย
               หมวด ๑ ความผิดต่อชีวิต มาตรา 288 - 294
               หมวด ๒ ความผิดต่อร่างกาย มาตรา 295 - 300
               หมวด ๓ ความผิดฐานทำให้แท้งลูก มาตรา 301 - 305
               หมวด ๔ ความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก คนป่วยเจ็บหรือคนชรา มาตรา 306 - 308
          ลักษณะ ๑๑ ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง
               หมวด ๑ ความผิดต่อเสรีภาพ มาตรา 309 - 321/1
               หมวด ๒ ความผิดฐานเปิดเผยความลับ มาตรา 322 - 325
               หมวด ๓ ความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326 - 333
          ลักษณะ ๑๒ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
               หมวด ๑ ความผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ มาตรา 334 - 336 ทวิ
               หมวด ๒ ความผิดฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ มาตรา 337 - 340 ตรี
               หมวด ๓ ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 341 - 348
               หมวด ๔ ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ มาตรา 349 - 351
               หมวด ๕ ความผิดฐานยักยอก มาตรา 352 - 356
               หมวด ๖ ความผิดฐานรับของโจร มาตรา 357
               หมวด ๗ ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ มาตรา 358 - 361
               หมวด ๘ ความผิดฐานบุกรุก มาตรา 362 - 366
          ลักษณะ ๑๓ ความผิดเกี่ยวกับศพ มาตรา 366/1 - 366/4

ภาค 3 ลหุโทษ มาตรา 367  - 398

----------------------------

พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙
               
          ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
          ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙
          เป็นปีที่ ๑๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
          พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
          โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายอาญาเสียใหม่เพราะตั้งแต่ได้ประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญา ในพุทธศักราช ๒๔๕๑ เป็นต้นมา พฤติการณ์ของบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอันมาก
          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
          มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙”
          มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
          มาตรา ๓  ประมวลกฎหมายอาญาท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นไป
          มาตรา ๔  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว ให้ยกเลิกกฎหมายลักษณะอาญา
          มาตรา ๕  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว ในกรณีที่กฎหมายใดได้กำหนดโทษโดยอ้างถึงโทษฐานลหุโทษในกฎหมายลักษณะอาญาไว้ ให้ถือว่ากฎหมายนั้นได้อ้างถึงโทษ ดังต่อไปนี้
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๑ หมายความว่า ปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๒ หมายความว่า ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๓ หมายความว่า จำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ถ้าอ้างถึงโทษชั้น ๔ หมายความว่า จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          มาตรา ๖  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว ในการจำคุกแทนค่าปรับตามกฎหมายใด ไม่ว่ากฎหมายนั้นจะบัญญัติไว้ประการใด ให้นำประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ แต่สำหรับความผิดที่ได้กระทำก่อนวันที่ประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับ มิให้กักขังเกินกว่าหนึ่งปีสำหรับโทษปรับกระทงเดียว และสองปีสำหรับโทษปรับหลายกระทง
          มาตรา ๗  ในกรณีวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามมาตรา ๔๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับเสมือนเป็นความผิดอาญา แต่ห้ามมิให้คุมขังชั้นสอบสวนเกินกว่าสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ถูกจับมาถึงที่ทำการของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ แต่มิให้นับเวลาเดินทางตามปกติที่นำตัวผู้ถูกจับมาศาลรวมเข้าในกำหนดเวลาสี่สิบแปดชั่วโมงนั้นด้วย
          มาตรา ๘  เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดอ้างถึงกฎหมายลักษณะอาญา หรืออ้างถึงบทบัญญัติแห่งกฎหมายลักษณะอาญา ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นอ้างถึงประมวลกฎหมายอาญา หรือบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญาในบทมาตราที่มีนัยเช่นเดียวกัน แล้วแต่กรณี
          ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
            จอมพล ป.  พิบูลสงคราม
                นายกรัฐมนตรี
          หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. ๑๒๗ ได้ประกาศใช้มานานแล้วและได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมอยู่หลายแห่งกระจัดกระจายกันอยู่ จึงเป็นการสมควรที่จะได้ชำระสะสาง และนำเข้ารูปเป็นประมวลกฎหมายอาญาเสียในฉบับเดียวกัน
อนึ่ง ปรากฏว่าหลักการบางอย่างและวิธีการลงโทษบางอย่างควรจะได้ปรับปรุงให้สมกับกาลสมัยและแนวนิยมของนานาประเทศ ในสมัยปัจจุบันหลักเดิมบางประการจึงล้าสมัย สมควรจะได้ปรับปรุงเสียให้สอดคล้องกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย



ประมวลกฎหมายอาญา ครบทุกมาตรา