สวัสดีครับนักศึกษา เรื่องเกี่ยวกับคำนามมันยังไม่หมดครับ ผมจึงไปต่อเรื่องอื่นยังไม่ได้ วันนี้จะขยายความจากตอน 4 ตอนนี้ เราพอเข้าใจบ้างแล้วว่า คำนาม เราแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ คำนามที่สามารถนับได้ กับ คำนามที่ไม่สามารถนับได้ และการบอกจำนวนของคำนามเราแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ คำนามรูปเอกพจน์ และคำนามรูปพหูพจน์ ประเด็นที่จะอธิบายต่อ มีดังหัวข้อต่อไปนี้ ครับ

การใช้คำสรรพนามแทนคำนามที่นับได้

การใช้คำสรรพนามแทนคำนามที่นับได้ รูปเอกพจน์ บุรุษที่ 3
เราจะใช้สรรพนาม he, him, หรือ his แทนคำนามเอกพจน์ที่เป็นเพศชาย (กรณีรู้เพศ)
เราจะใช้สรรพนาม she, her, หรือ hers แทนคำนามเอกพจน์ที่เป็นเพศหญิง (กรณีรู้เพศ)
ตัวอย่างประโยค
• “The man left  early,  so I didn’t get a chance to talk to him.”
(ชายคนนั้นได้ออกไปก่อน ดังนั้น ฉันจึงไม่มีโอกาสที่จะพูดกับเขา)
คำว่า man เป็นคำนามเอกพจน์บุรุษที่ 3 เราจึงใช้ him แทน
• “The president has many things that she wants to accomplish in office.”
(ประธานาธิบดีมีหลายสิ่งที่หล่อนต้องการที่จะทำให้เสร็จในที่ทำงาน)
ในกรณีนี้ เรารู้ว่า ประธานาธิบดีนั้นเป็นผู้หญิง เราจึงใช้ she แทน
• “We taught our dog to know which bed is his.”
(เราได้สอนสุนัขของพวกเราให้รู้ว่าที่นอนอันไหนเป็นของเขา) (ใช้ his ในกรณีเป็นสัตว์เลี้ยง)
กรณีนี้เรารู้ว่าสุนัขของเราเป็นเพศชาย(ตัวผู้) เราจะใช้ his
• “I hate this computer because it is so slow!”
(ฉันเกลียดคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ เพราะว่ามันทำงานช้ามาก)
กรณีนี้ คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งของ เราจะใช้สรรพนาม it (เพราะไม่มีเพศ)
• “The cow lowed softly as it ate.”
(แม่วัวโน้มลงช้า ๆ ขณะมันกิน)
กรณีนี้ เราจะใช้ it แทน cow  (เพราะไม่เป็นสัตว์เลี้ยง จึงไม่ระบุเพศ)
• “Some people dislike this town, but I’ve always loved it.”
(คนบางส่วนไม่ชอบเมืองนี้ แต่ฉันชอบมันเสมอ) (คำนามสถานที่ ไม่มีเพศ เราใช้ it)

การใช้คำสรรพนามแทนคำนามที่นับได้ รูปพจน์ บุรุษที่ 3
เราจะใช้คำสรรพนาม they, them, หรือ theirs แทนคำนามพหูพจน์ บุรุษที่ 3
ตัวอย่างประโยค
• “The parade floats  are spectacular!  I love  watching  them go down the street.”
(ขบวนรถแห่เป็นแถวน่าตื่นเต้น ฉันชอบดูพวกมันไปตามถนน)
เราจะใช้ them แทนคำนามพหูพจน์ บุรุษที่ 3
• “Bill and Samantha told me they were coming over later.”
(Bill และ Samantha ได้บอกฉันว่า พวกเขาจะมาเยี่ยมในภายหลัง)
เราจะใช้ they แทนคนหลายคน ที่พูดถึง
• “Make sure the children know which bags are theirs.”
(ทำให้เด็ก ๆ รู้ว่ากระเป๋าอันไหนเป็นของพวกเขา)
กรณีพิเศษ การใช้ they, them, หรือ theirs แทนคำนามเอกพจน์บุรุษที่ 3 (Singular they)
ตัวอย่างประโยค
• “You shouldn’t judge someone until you know what they are really like.”
(คุณไม่ควรตัดสินคนบางคน จนกว่าคุณรู้ว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นอย่างไร)
คำว่า someone เป็นรูปเอกพจน์ แต่มักใช้สรรถนาม they (เพราะไม่สามารถระบุเพศได้ชัด)
• “If anyone needs extra help with their studies, they should feel free to see me after class.”
คำว่า anyone เป็นเอกพจน์ แต่มักใช้สรรพนาม they แทน (ไม่ต้องการชี้เฉพาะหรือระบุเพศได้)

การผันกริยาให้สอดคล้องกับประธาน(Subject-Verb Agreement) กรณีเป็นคำนามที่นับได้ บุรุษที่ 3

ตัวอย่างประโยค กรณีกริยา "be"
• “My brother is back from college.” (เป็น Present Simple Tense รูปเอกพจน์)
(พี่ชายของฉันกลับจากวิทยาลัย)
• “The company was in financial trouble.” (เป็น Past Simple Tense รูปเอกพจน์)
(บริษัทอยู่ในช่วงประสบปัญหาทางการเงิน)
• “Many people are getting frustrated with the government.” (เป็น Present Simple Tense รูปพหูพจน์)
(ประชาชนจำนวนมากรู้สึกหงุดหงิดกับรัฐบาล)
• “The computers were rather old.” (เป็น Past Simple Tense รูปพหูพจน์  )
(คอมพิวเตอร์ค่อนข้างเก่าแล้ว)

ตัวอย่างประโยค การผันกริยากลุ่มอื่น
• “My father runs his own business.” กริยาเติม -s กรณี Present Simple Tense รูปเอกพจน์
• “But his sons run it when he’s away.” กริยาไม่เติม -s Present Simple Tense รูปพหูพจน์
• “The dog wags his tail when he is happy.”
• “Dogs sometimes wag their tails when they’re angry or scared.”

ตัวอย่างประโยค การผันของกริยา have และกริยา do
• “The apple has a mark on it.” (Present Simple Tense รูปเอกพจน์)
• “All the apples have  marks on them.” (Present Simple Tense รูปพหูพจน์)
• “The teacher does not think it’s a good idea.” (Present Simple Tense รูปเอกพจน์)
• “The other teachers do not mind, though.” (Present Simple Tense รูปพหูพจน์)

ตัวอย่างประโยค การผันกริยากลุ่ม Modal Auxiliary Verbs
สำหรับกริยาช่วยชนิด Modal ซึ่งได้แก่  will, would, shall, should, can, could, might, และ must
กริยาจะไม่เปลี่ยนรูป ไม่ว่าประธานจะเป็นนามเอกพจน์ หรือ พหูพจน์
• “This phone can also surf the Internet!” (ประธานรูปเอกพจน์)
• “Most phones can do that now.” (ประธานรูปพหูพจน์)
• “The president will arrive in Malta next week.” (ประธานรูปเอกพจน์)
• “The other diplomats will arrive shortly after that.” (ประธานรูปพหูพจน์)

การใช้คำสรรพนามแทนคำนามที่นับไม่ได้

เนื่องจาก คำนามที่นับไม่ได้ ไม่สามารถแจกแจงออกมาเป็นหน่วยได้ ดังนั้น จึงไม่มีสรรพนามรูปพหูพจน์บุรุษที่ 3
ตัวอย่างประโยค
• Person A: “Your hair looks very nice today.” (ผมของคุณดูดีมากในวันนี้)
• Person B: “Yes, I washed them last night.” (ค่ะ, ฉันได้สระพวกมันเมื่อคืน)
• Person B: “Yes, I washed it last night.” (ค่ะ, ฉันได้สระมันเมื่อคืน)
จากตัวอย่างประโยคขอให้เข้าใจว่า คำว่า เส้นผม (hair)
สมมุติว่า คุณมีเส้นผม 2 เส้น เราจะใช้ว่า two hairs   (กรณีนี้เส้นผมจะเป็นคำนามที่นับได้)
แต่จากตัวอย่างประโยค Your hair หมายถึง ผมทั้งหัวของคุณ (กรณีนี้เส้นผมจะเป็นคำนามที่นับไม่ได้)
ดังนั้น เราจึงใช้สรรพนาม it แทนคำนามที่นับไม่ได้
• There are two  hairs on your jacket. (มีผม 2 เส้นบนเสื้อคลุมของคุณ)
ในกรณีนี้ คำว่าเส้นผม กลายเป็นนามที่นับได้
แต่ถ้าเป็น The hair on your head (ผมที่อยู่บนศีรษะของคุณ)  เราจะถือว่าเป็นคำนามที่นับไม่ได้

การระบุรูปพหูพจน์ของคำนามที่นับไม่ได้

ตัวอย่างประโยค
“We bought new camping equipments.” (พวกเราได้ซื้ออุปกรณ์ค้างแรมมาใหม่)
“We bought new camping equipment.”
เนื่องจาก คำว่า equipment (อุปกรณ์/เครื่องมือ) เป็นคำนามที่นับไม่ได้ ดังนั้น ไม่สามารถเติม "-s" ได้
  “The teacher gave us many homeworks.” (ครูให้การบ้านเราจำนวนมาก)
  “The teacher gave us a lot of homework.”
เนื่องจากคำว่า homework เป็นคำนามที่นับไม่ได้ เติม "-s" ไม่ได้ และ many ใช้กับนามที่นับได้เท่านั้น
แต่เราสามารถใช้คำอื่นที่เป็นตัวระบุปริมาณของคำนามที่นับไม่ได้ ได้ เช่น ใช้ “a lot” (มากมาย)

การผันกริยาให้สอดคล้องกับประธาน กรณีเป็นคำนามนับไม่ได้

ตัวอย่างประโยค
“The furnitures in my living room are old.” (furniture เป็นคำนามที่นับไม่ได้)
“The furnitures in my living room is old.” (furniture เป็นคำนามที่นับไม่ได้ เติม - s ไม่ได้)
“The furniture in my living room is old.”
“Their behaviors are not good.” (behavior : ความประพฤติ) เป็นคำนามที่ไม่สามารถนับได้
“Their behavior is not good.”
“The news are good.” (news : ข่าว) เป็นคำนามที่นับไม่ได้
“The news is good.”

สรุปประเด็นสำคัญ ๆ ที่ผมลงไว้ในโพสท์ นี้
1. การใช้สรรพนามแทนคำนาม กรณีคำนามที่นับได้ และคำนามที่นับไม่ได้
2. การผันรูปกริยาให้สอดคล้องกับ กรณีคำนามที่นับได้ และคำนามที่นับไม่ได้
สำหรับการกระจายกริยาในภาษาอังกฤษ ทุกรูปแบบ ผมได้สรุปคร่าว ๆ ไว้แล้ว คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่
การกระจายกริยาในภาษาอังกฤษ

โปรดติดตามโพสท์ต่อไป ครับ (ความรู้สามารถเรียนกันทัน และแซงกันได้)

เรียบเรียงโดย
  • ติวเตอร์แบงค์
  • สถาบันติว PERFECT ซ.รามคำแหง 43/1
  • ติวเตอร์ประจำวิชา ENG, ENS, CEN2101, CEN2102, APR2101
  • ติดต่อติวเตอร์ โทร. 081-7269394
เอกสารอ้างอิง
  1. Brinton, Laurel J. & Donna M. Brinton. 2010. The linguistic structure of Modern English, 2nd edn. Amsterdam: John Benjamins Publishing Company.
  2. Hopper, Paul J. 1999. A short course in grammar. New York: W. W. Norton & Company.
  3. Huddleston, Rodney. 1984. Introduction to the grammar of English. Cambridge: Cambridge University Press.
  4. Peter Huring. 2016. Complete English Grammar Rules - Examples, Exceptions & Everything You Need to Master Proper Grammar by Farlex International.
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 27 พ.ย. 2562