41. ข้อใดถือเป็นการสิ้นสภาพบุคคล
   (1) การสาบสูญ
   (2) วิกลจริต
   (3) ล้มละลาย
   (4) สมองไม่ทำงาน

42. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับทารกในครรภ์มาดา
   (1) ไม่มีสภาพบุคคล
   (2) ไม่มีสิทธิใด
   (3) มีสิทธิรับมรดกถ้าคลอดแล้วอยู่รอด
   (4) มีสภาพบุคคลแล้ว

43. สภาพบุคคลเริ่มต้นเมื่อใด
   (1) นางแดงแท้งบุตรขณะตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน
   (2) นางเหลืองตั้งครรภ์บุตรเป็นเวลา 9 เดือนแล้ว
   (3) นางเขียวคลอดบุตรโดยที่หมอยังไม่ได้ตัดสายสะดือทารก
   (4) นางดำไปตรวจครรภ์แล้วทราบว่าบุตรเป็นเพศชายก่อนที่จะถึงกำหนดคลอด 1 เดือน

44. ข้อใดถูกต้องที่สุด
   (1) สภาพบุคคลเริ่มต้นเมื่อคลอด
   (2) ทารกในครรภ์ถือเป็นทายาทแล้ว
   (3) เมื่อทารกคลอดแล้วปรากฏว่ามีการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่นนี้ทารกมีสภาพบุคคล
   (4) เมื่อทารกคลอดแล้วต้องมีการหายใจอย่างน้อย 1 วัน จึงจะถือว่ามีสภาพบุคคล

45. ข้อถูกไม่ถูกต้อง
   (1) การเป็นคนสาบสูญอาจมีการเพิกถอนคำสั่งได้
   (2) เมื่อบุคคลใดถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท
   (3) เมื่อบุคคลใดถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญแล้ว กฎหมายถือว่าถึงแก่ความตาย
   (4) เมื่อบุคคลใดถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ทำให้การสมรสขาดจากกัน

46. ข้อใดไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
   (1) ชื่อฉายา
   (2) นามแฝง
   (3) ชื่อเล่น
   (4) ชื่อรอง

47. กฎหมายกำหนดภูมิลำเนาให้แก่บุคคลใด
   (1) บุคคลสาบสูญ
   (2) บุคคลไร้ความสามารถ
   (3) บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
   (4) บุคคลวิกลจริต

48. บุคคลบรรลุนิติภาวะ เมื่อ
   (1) อายุ 16 ปี โดยศาลอนุญาตให้ทำการสมรส
   (2) อายุ 17 ปี บริบูรณ์ และจดทะเบียนสมรส
   (3) อายุ 20 ปีบริบูรณ์
   (4) ถูกทุกข้อ

49. ข้อใดไม่ใช่นิติกรรม
   (1) ขึ้นรถโดยสารประจำทาง
   (2) ขอยืมปากกาเพื่อนใช้
   (3) เล่นการพนันฟุตบอล
   (4) นำเงินดอลลาร์ไปแลกเป็นเงินบาท

50. นิติกรรมที่เป็นโมฆียะ ได้แก่
   (1) นิติกรรมที่มีผลเป็นอันสูญเปล่าเมื่อถูกบอกล้าง
   (2) นิติกรรมที่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
   (3) นิติกรรมที่มีผลอันสูญเปล่าเมื่อถูกให้สัตยาบัน
   (4) นิติกรรมที่ทำไม่ถูกต้องตามแบบพิธีที่กฎหมายกำหนด

51. สาเหตุที่ทำให้นิติกรรมเป็นโมฆะ ได้แก่
   (1) เกิดจากการข่มขู่
   (2) ไม่เป็นไปตามแบบที่กฎหมายกำหนด
   (3) เกิดจากกลฉ้อฉล
   (4) เกิดจากการสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคล

52. นิติกรรมข้อใดเป็นโมฆะ
   (1) ด.ช.ดำ ตกลงทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กับนายขาว
   (2) น.ส.แดง ทำสัญญายอมรับเป็นภริยาน้อยของนายดำ
   (3) ด.ช.เอ ตกลงทำสัญญาให้รถยนต์ของตนกับ ด.ญ.บี
   (4) นางหนึ่งตกลงซื้อขายรถยนต์ของตนกับนายสมชายโดยไม่ได้ทำสัญญา

53. โมฆะกรรม หมายถึงนิติกรรมที่ 
   (1) มีผลในกฎหมายผูกพันกัน แต่อาจถูกกล่าวอ้างได้
   (2) มีผลในกฎหมายผูกพันกัน แต่อาจถูกบอกล้างได้
   (3) ตกเป็นอันเสียเปล่าใช้บังคับไม่ได้ เสมือนหนึ่งมิได้เกิดอะไรขึ้น
   (4) ตกเป็นอันเสียเปล่าใช้บังคับไม่ได้ แต่อาจได้รับสัตยาบันให้กลับสมบูรณ์ได้

54. สิทธิ หมายถึง
   (1) การที่บุคคลทุกคนต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
   (2) หน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
   (3) ประโยชน์ที่กฎหมายรับรองคุ้มครองให้
   (4) ไม่มีข้อใดถูก

55. การแสดงเจตนาทำนิติกรรมทำได้โดย
   (1) เป็นลายลักษณ์อักษร
   (2) โดยวาจา
   (3) โดยกิริยาอาการ
   (4) ถูกทุกข้อ

56. ข้อใดเป็นนิติกรรมที่มีผลสมบูรณ์
   (1) นายเอจ้างนายบีให้ไปฆ่านายซี
   (2) นายเอกซื้อแหวนเพชรโดยถูกหลอกว่าเป็นเพชรจริง
   (3) นายหนึ่งขับรถชนนายสองจึงต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายสอง
   (4) นายตรีเกรงใจนายโทพราะเป็นญาติผู้ใหญ่จึงจำใจต้องขายรถยนต์ของตนให้แก่นายโท

57. การกระทำที่เป็นโมฆียะจะมีผล คือ
   (1) ให้สัตยาบันไม่ได้
   (2) การกล่าวอ้างไม่กำหนดระยะเวลา
   (3) สมบูรณ์จนกว่าจะบอกล้าง
   (4) ผู้มีส่วนได้เสียทุกคนกล่าวอ้างได้

58. ข้อใดมิใช่นิติเหตุ
   (1) การเกิด
   (2) การตาย
   (3) การให้
   (4) การละเมิด

59. ข้อใดทำให้สิทธิระงับ
   (1) ขาดตัวผู้ทรงสิทธิ
   (2) การชำระหนี้ตามกำหนด
   (3) การสูญสิ้นวัตถุแห่งสิทธิ
   (4) ถูกทุกข้อ

60. บุคคลธรรดาที่กฎหมายกำหนดภูมิลำเนาให้ ได้แก่
   (1) ผู้เยาว์
   (2) คนไร้ความสามารถ
   (3) คนเสมือนไร้ความสามารถ
   (4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2

61. กรณีใดไม่ถือว่านิติบุคคลสิ้นสุดสภาพ
   (1) นิติบุคคลล้มละลาย
   (2) ศาลมีคำสั่งให้เลิก
   (3) ครบกำหนดระยะเวลาในตราสารจัดตั้งนิติบุคคล
   (4) ไม่มีข้อใดถูก

62. คนไร้ความสามารถทำนิติกรรมข้อใดได้ หากผู้อนุบาลยินยอม
   (1) นิติกรรมที่เป็นการเฉพาะตัว
   (2) นิติกรรมที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
   (3) นิติกรรมที่ได้ไปซึ่งสิทธิ
   (4) นิติกรรมใด ๆ ก็ไม่ได้ทั้งสิ้น

63. องค์ประกอบในการร้องขอศาลให้บุคคลใดเป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ได้แก่
   (1) ตาบอดหูหนวก
   (2) จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
   (3) ติดการพนัน
   (4) มีความบกพร่องทางร่างกายและไม่สามารถจัดการงานของตนเองได้

64. ในนิติกรรมอำพราง กฎหมายจะบังคับใช้กฎหมายได้อย่างไร
   (1) บังคับใช้นิติกรรมอำพรางได้เท่านั้น
   (2) บังคับใช้นิติกรรมที่ถูกอำพรางได้เท่านั้น
   (3) บังคับใช้ได้ทั้งสองนิติกรรม
   (4) บังคับใช้ไม่ได้ทั้งสองนิติกรรม

65. นายดำอายุ 25 ปี ตกลงหมั้นกับนางสาวแดง อายุ 16 ปี โดยบิดาและมารดาของนางสาวแดงต่างยินยอม เช่นนี้การหมั้นมีผลทางกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นกับผลของคำพิพากษา

66. นายช้างอายุ 29 ปี ตกลงหมั้นกับนางสาวแดงอายุ 18 ปี โดยไม่ต้องการให้ใครทราบเลย เช่นนี้การหมั้นมีผลทางกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นกับผลของคำพิพากษา

67. นายขิมตกลงจะไปหมั้นกับ น.ส.แคน แต่ก่อนถึงวันหมั้น น.ส.แคน ได้ขอให้นายขิมส่งมอบทองคำแท่งทั้งหมดที่เตรียมไว้เป็นของหมั้นแก่ตนก่อน ต่อมาอีกวันในเวลาทำสัญญาหมั้นจริงจึงไม่มีของหมั้นส่งมอบ เช่นนี้ ต่อมา น.ส.แคน ไม่ทำการสมรสกับนายขิม นายขิมจะทำอย่างไร
   (1) เรียกทองคำแท่งคืนทั้งหมด
   (2) เรียกทองคำแท่งได้ครึ่งหนึ่ง
   (3) เรียกทองคำแท่งคืน พร้อมเบี้ยปรับ
   (4) เรียกทองคำแท่งคืนไม่ได้เลย


68. นายชายได้แปลงเพศเป็นหญิงแล้วไปจดทะเบียนสมรสกับนายสิงห์ โดยทั้งคู่มีอายุ 30 ปี เช่นนี้การสมรสมีผลทางกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นกับผลของคำพิพากษา

69. นายไก่มีลูกติดคือนายไข่จดทะเบียนสมรสกับนางเป็ดที่มีลูกติดคือนางสาวห่าน ทั้งนายไข่และนางสาวห่าน มีอายุ 25 ปี ไปจดทเบียนสมรสกัน เช่นนี้การสมรสมีผลทางกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นกับผลของคำพิพากษา

70. นายเด่นอายุ 22 ปี จดทะเบียนสมรสกับนางดาวอายุ 30 ปี โดยที่บิดาและมารดาของนายเด่นไม่ยินยอม เช่นนี้การสมรสมีผลต่อกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นกับผลของคำพิพากษา

71. นายดินอายุ 35 ปี จดทะเบียนสมรสกับนางแก้วอายุ 30 ปี ต่อมานายดินถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ เช่นนี้การสมรสมีผลทางกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นอยู่กับผลของคำพิพากษา

72. การสมรสกับบุคคลวิกลจริตจะมีผลทางกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นอยู่กับผลของคำพิพากษา

73. การสมรสที่ไม่สมบูรณ์ในกรณีใดที่อาจมีโทษทางอาญา
   (1) การสมรสกับคนวิกลจริต
   (2) สมรสกับผู้มีสายโลหิตใกล้ชิดกัน
   (3) การจดทะเบียนสมรสซ้อน
   (4) การสมรสโดยปราศจากเจตนาที่แท้จริงที่จะสมรส

74. การสมรสในกรณีใดต่อไปนี้ มีผลทำให้ชายหญิงคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
   (1) การมาตกลงอยู่กินกันมากกว่า 30 ปี
   (2) ชายจัดงานฉลองสมรสโดยมีพิธีหมั้นและมอบสินสอดแก่หญิง
   (3) หญิงม้ายจดทะเบียนสมรสกับชายคนใหม่หลังการสมรสเดิมสิ้นสุดลงแล้ว 180 วัน
   (4) ทุกกรณีชายหญิงนั้นยังคงเป็นคู่สมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

75. การสมรสในกรณีใดต่อไปนี้ การสมรสจะสิ้นสุดลงด้วยเหตุศาลพิพากษาให้เพิกถอน
   (1) การจดทะเบียนสมรสซ้อน
   (2) การสมรสเพราะเหตุกลฉ้อฉล
   (3) การสมรสกับบุพการี
   (4) การสมรสโดยปราศจากความยินยอมที่แท้จริง

76. การสมรสโดยสำคัญผิดตัวคู่สมรสจะมีผลทางกฎหมายอย่างไร
   (1) โมฆะ
   (2) โมฆียะ
   (3) สมบูรณ์
   (4) ขึ้นกับผลของคำพิพากษา

77. กรณีใดต่อไปนี้ไม่เป็นสินสมรส
   (1) เงินถูกรางวัลสลากกาชาดของคู่สมรสฝ่ายหนึ่ง
   (2) เงินเดือนของคู่สมรส
   (3) คู่สมรสได้รับมรดกเมื่อบิดาตายในฐานะทายาทโดยธรรม
   (4) ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2

78. กรณีใดไม่เป็นเหตุให้การสมรสสิ้นสุดลง
   (1) คู่สมรสฝ่ายหนึ่งสาบสูญ
   (2) คู่สมรสฝ่ายหนึ่งป่วยตาย
   (3) คู่สมรสจดทะเบียนหย่า
   (4) ศาลพิพากษาเพิกถอนการสมรสเพราะถูกข่มขู่

79. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ทรัพย์
   (1) เรือแจว
   (2) โทรทัศน์
   (3) เครื่องบิน
   (4) ค่านิยมในยี่ห้อ

80. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ทรัพยสิทธิ
   (1) สิทธิครอบครอง
   (2) กรรมสิทธิ์
   (3) ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์
   (4) อุปกรณ์
--------------