21. ข้อความใดใช้ภาษาสอดคล้องกับหลัก 7 ประการเพื่อการสื่อสารที่สัมฤทธิ์ผล
(1) ผมยินดีจะแจ้งให้ทราบว่าสินค้าของเราเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ รับรองความพึงพอใจเสมอ
(2) แผนกนี้ให้การสนับสนุนการบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของเรา
(3) งานที่คุณทำในขณะนี้ คุณรับผิดชอบหน้าที่ตำแหน่งอะไร
(4) นาย ก เป็นคนฉลาด ดูจากประวัติการศึกษาพบว่าผลการเรียนดี ได้เกรด 4 มาโดยตลอด
(5) ใช้ภาษาสอดคล้องทุกข้อ

22. ข้อความใดใช้ภาษาไม่สอดคล้องกับหลัก 7 ประการเพื่อการสื่อสารที่สัมฤทธิ์ผล
(1) เราเชื่อว่าคุณสมบัติของคุณเหมาะสมกับตำแหน่งงานอื่นมากกว่า
(2) บางครั้งคำพูดของผมอาจไม่ถูกต้องชัดเจนพอ ผมจะพยายามดูใหม่อีกครั้ง
(3) คุณจะทราบถึงรายละเอียดของบริษัทจากรายงานประจำปีที่คุณได้รับฉบับนี้
(4) นี่เห็นได้ชัดว่าคุณไม่เข้าใจที่ผมพูด
(5) ใช้ภาษาสอดคล้องทุกข้อ

23. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพอาศัยหลักจิตวิทยาการสื่อสารที่เกี่ยวข้อง ยกเว้นข้อใด
(1) ความสามารถในการใช้ถ้อยคำให้เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ
(2) ความไวต่อคู่การสื่อสาร
(3) การเอาใจเขามาใส่ใจเราอยู่เสมอ
(4) เน้นการสร้างมนุษย์สัมพันธ์
        (5) จำเป็นต้องใช้ทุกข้อ

ข้อ 24. - 28. ใช้ตัวเลือกเหล่านี้สำหรับตอบคำถาม
คำถาม : จากผลการวิเคราะห์บุคคลต่าง ๆ ตามรายชื่อข้างต้น โดยอาศัยทฤษฎีหน้าต่างหัวใจของโจแฮรี่ จงตอบคำถามต่อไปนี้

24. บุคคลใดที่ปกตินิสัยจะเป็นคนเปิดเผย แต่ไม่ค่อยรับฟังข้อตำหนิติเตียนจากคนรอบข้าง ทำให้บุคลิกภาพบางอย่างในตัวเองที่เป็นอุปสรรคต่อการติดต่อกับผู้อื่น

25. บุคคลใดที่ปกตินิสัยไม่ค่อยเปิดเผยตนเองมากนัก แต่ยังดีที่คอยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้

26. บุคคลใดที่ควรเป็นแบบอย่างที่เหมาะสมในการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในสังคม อุปนิสัยที่เอื้อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น และมีปัญหาน้อยลง

27. บุคคลใดที่ปกตินิสัยจะเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว และปลีกตัวเองออกจากสังคม ไม่ยุ่งกับใคร ไม่สนใจปฏิกิริยาจากคนรอบข้าง มีปัญหาด้านมนุษยสัมพันธ์และการอยู่ร่วมกับคนอื่น

28. การวิเคราะห์บุคคลใดที่ไม่เป็นไปตามแนวคิดของโจแฮรี่

29. ข้อความต่อไปนี้คือข้อความสังเกต ยกเว้นข้อใด
(1) อากาศแปรปรวนมาตลอดทั้งปี ต้องเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ “เอลนินโญ” แน่นอน
(2) หน้าหนาวปีนี้ อากาศเย็นสบายกว่าปีก่อน ๆ เอื้อต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวจัง
(3) ช่วงปีใหม่ฉันขึ้นไปแม่ฮ่องสอน ไปเที่ยวปาย หมอกลงจัดมาก โรแมนติกสุด ๆ เลย
(4) ส่วนฉันไปกระบี่มา ดันไปเจอมรสุมเข้าพอดี วัยรุ่นเซ็งเลย เล่นน้ำก็ไม่ได้ ไปไหนก็ไม่ได้
(5) ยังไงก็ตาม ที่เห็นชัด ๆ คือ สถานที่เที่ยวทุก ๆ แห่ง ยังมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปใช้เงินไม่น้อย

30. ข้อความต่อไปนี้ คือข้อความสรุป ยกเว้นข้อใด
(1) สมัยนี้ถ้าอยากเรียนจบแล้วมีงานทำ ขณะที่เรียนก็ต้องหาโอกาสไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่าง
             ประเทศให้ได้
(2) มีหลายช่องทาง เช่น สอบชิงทุน หรือเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ เช่น “Work and Travel” ไง
(3) โครงการฯ นี้ฉันว่าน่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลนะ เพราะเกี่ยวกับเยาวชนไทยเรา
(4) ถ้ารัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โครงการพวกนี้ค่าใช้จ่ายก็คงไม่แพงสินะ อย่างน้อยก็เป็นการเปิด
              โอกาสให้พวกเราได้ไปทำงานหาเงิน และเปิดโลกทัศน์ตัวเองด้วย
(5) ดีไม่ดี ถ้านายจ้างฝรั่งเกิดพอใจผลงาน เราน่าจะขอให้เขาออกใบอนุญาตทำงานให้เลยนะ

31. ข้อความต่อไปนี้ข้อใดคือข้อความประเมิน
(1) วิกฤตเศรษฐกิจโลกเริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากข่าวการปลดพนักงานตามโรงงานต่าง ๆ ที่
              มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน
(2) โดยเฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามข่าวเพิ่งมีการปลดพนักงานอีกกว่า 500 คน
(3) ประเภทธุรกิจของสินค้าที่ได้รับผลประทบก่อน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า การท่องเที่ยวฯ
(4) ตามรายงานข่าว พบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบอกยกเลิกห้องพักและโปรแกรมการเดินทางมา
             ท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
(5) นักวิเคราะห์กล่าวว่า สภาพการณ์เลวร้ายดังกล่าวจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาอย่างน้อยไม่
              ต่ำกว่า 5 ปี และนับเป็นสถานการณ์ที่วิกฤติที่สุดเท่าที่เคยมีมา

32. ข้อความใดกล่าวถูกต้องกับแนวคิดทฤษฎีความแตกต่างระหว่างข้อความต่าง ๆ
(1) บุคคลมักทำการสรุปโดยไม่ตระหนักว่าสิ่งที่ได้กระทำไปนั้นเป็นเพียงความเข้าใจตน
(2) นอกจากนี้ การสรุปมักเป็นผลมาจากการสังเกตโดยตรงจากประสบการณ์และข้อมูลที่ได้รับ
(3) ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการสรุปมักเป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่พึงประสงค์ และผิดศีลธรรม
(4) ในบรรดาข้อความทั้งสามประเภท ข้อความสรุป เป็นข้อความที่อาจเป็นเท็จได้ ในการสื่อสาร
             จำเป็นต้องมีความระมัดระวังในการใช้ข้อความประเภทนี้
(5) การสื่อสารจำเป็นต้องพยายามแยกแยะความแตกต่างระหว่างข้อความสังเกต ข้อความวิเคราะห์
             ข้อความสรุป และข้อความประเมิน โดยละเว้นการสรุปที่ได้พบเห็น

33.  ข้อใดกล่าวถูกต้องตามแนวคิดพื้นฐานในการใช้วัจนภาษาเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ
(1) “ข้อความสังเกต” มีรากฐานอยู่บนสมมุติฐาน (Hypothesis)
(2) ข้อความสังเกตเป็นข้อความที่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์ด้วยการใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ เป็น
              ข้อความภาษาทางการวิจัย ไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน
(3) “ข้อความสรุป” จัดเป็นข้อความที่เป็นเท็จ ผู้พูดไม่มีความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่พูด เป็นเพียง
             การสรุปตามความเข้าใจเท่านั้น ในฐานะผู้ฟังไม่ควรให้ความสนใจมากนัก
(4) ข้อความสังเกต ข้อความสรุป และข้อความประเมิน “ข้อความประเมิน” จัดเป็นข้อความที่น่าเชื่อถือ
             มากที่สุด เนื่องจากต้องใช้ความสามารถในการสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้ยิน
        (5) หลีกเลี่ยงการใช้กลุ่มคำที่อาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น ภาษาคะนอง ภาษาเทคนิค ภาษาติดปากฯ

34. ข้อใดกล่าวไม่สอดคล้องกับแนวความคิด Faulty Assumption
(1) เด็กรามคำแหงไม่สู้งานหรอก เจอมานักแล้วทำงานได้ไม่ถึงเดือนก็เผ่น ตอนมาสมัครสัญญาเสียดิบดีว่าจะทำงานให้นาน หนักแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง เฮ้อ... เอาเข้าจริงก็หายจ้อย
(2) เขาว่ากันว่าคนเหนือเป็นคนโอบอ้อมอารี คนอีสานเป็นคนซื่อ จริงใจ ส่วนคนใต้เป็นคนขยันรักพรรคพวก พี่น้อง เพื่อนฝูง แล้วคนกรุงเทพฯ ล่ะ มีอะไรดีบ้าง
(3) ผมเพิ่งไปสมัครงานมาแล้วเขาบอกให้เริ่มงานอาทิตย์หน้า แต่ผมกลับไม่สบายใจเพราะเผอิญมารู้ว่าไอ้สมชายเพื่อนตอนสมัยเรียนมัธยมซึ่งเกลียดผมมากเพราะเคยทะเลาะกัน ได้หมอนั่นมันทำงานที่บริษัทนี้ด้วย ถ้าเจอหน้ากันอีกคงต้องวางมวยกันแน่นอน
(4) เจ้านายสั่งให้อ้อยซึ่งเป็นชาวลาวทำความสะอาดห้องนอน แต่อ้อยกลับไปทำความสะอาดห้องส้วมแทน ปัญหาเกิดจากเจ้านายของอ้อยใช้คำศัพท์ว่า “ห้องนอน” ซึ่งในภาษาลาวหมายถึง “ห้องส้วม”นั่นเอง
(5) กล่าวสอดคล้องทุกข้อ

ข้อ 35. - 42. ใช้ตัวเลือกเหล่านี้สำหรับตอบคำถาม
(1) เป็นการสื่อสารแบบทางเดียว ผู้สื่อสารทำหน้าที่ออกคำสั่ง บังคับ ชักนำให้บุคคลอื่นทำตามโดยไม่สนใจถึงความถูกต้อง ถือตนเองสำคัญเหนือกว่าคนอื่น ๆ
(2) ผู้สื่อสารพยายามกระตุ้นให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดความคิด ให้อิสระ บรรยากาศยืดหยุ่น เต็มไปด้วยความเข้าใจและคำนึงถึงประโยชน์ซึ่งกันและกัน
(3) ผลักความรับผิดชอบให้กับคนอื่น รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น โดยคิดว่าตนเองเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น ไม่ใช่ตัวหลักสำคัญอะไร
(4) สารที่ใช้มักสั้น กะทัดรัด เข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อม เข้าใจง่ายจำได้ทันที เข้าถึงปัญหาก่อนแล้วค่อยดำเนินเรื่อง มักจะพิจารณาปัญหาและวางแผนล่วงหน้าก่อนนาน ๆ
(5) ไม่ต้องการมีอิทธิพลเหนือใคร และไม่ยอมให้ใครมามีอิทธิพลเหนือตน หลีกเลี่ยงการสื่อสารทุกรูปแบบ พยายามกลบเกลื่อนหรือผลักความรับผิดชอบให้ผู้อื่น
คำถาม : แบบการสื่อสารต่อไปนี้มีลักษณะการแสดงออกของพฤติกรรมอย่างไร

35. การสื่อสารแบบเปลี่ยนแปลง (Dynamic Style) - แบบที่ 1
36. การสื่อสารแบบถอนตัว (Withdrawing Style) - แบบที่ 2
37. การสื่อสารแบบควบคุม (Controlling Style) - แบบที่ 3
38. การสื่อสารแบบยอมตาม (Relinquishing Style) - แบบที่ 4
39. การสื่อสารแบบการให้มีความเสมอภาค (Equalitarian Style) - แบบที่ 5
40. รูปแบบของพฤติกรรมการสื่อสารในข้อใดที่เกิดขึ้นจากสภาวะจิตของความเป็นพ่อแม่
      (1) แบบที่ 1
      (2) แบบที่ 2
      (3) แบบที่ 3
      (4) แบบที่ 4      
      (5) แบบที่ 5
-----------------------
---------------------------
ข้อมูลโดยติวเตอร์แบงค์ [รับปรึกษาการติวทุกกระบวนวิชา]
  • สถาบันติว PERFECT  ซ.รามคำแหง 43/1
  • ติวเตอร์ประจำวิชา MCS 4170,MCS3183,MCS1350
  • ติวเตอร์ประจำวิชา ENG1001, ENG1002, ENG2001, ENG2002, CEN, ENS,APR
  • ติวเตอร์ประจำวิชา STA1003, STA2016, SBM4509, INT1004, INT1005
  • ติดต่อติวเตอร์ได้ที่ เบอร์ 081-7269394 Line ID : sjbank
  • นักศึกษาที่จะติดต่อติว กรณีคอร์สติวส่วนตัว ให้ติดต่อล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ นะครับ