เราอาจจะเคยได้ยินข่าว โรงงานนรก ใช้แรงงานเหมือนทาส ทำงานเหมือนหลังแทบจะหัก บทความนี้นักศึกษาจะได้เรียนรู้สำนวนที่เกี่ยวกับการทำงานหนัก ในภาษาอังกฤษเขาพูดว่าอย่างไร ครับ

เปิดสัปดาห์มาหลายคนอาจจะมีคำพูดว่า “วันนี้วันจันทร์” หรือ “เมื่อไหร่จะถึงวันศุกร์” หรืออะไรก็ตามที่ค.คนรักงานจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้ วันนี้มีพาดหัวข่าวของ Reuters ที่ระบุว่า Italian police uncover Naples sweatshop linked to luxury groups ตำรวจอิตาลีบุกกวาดล้างโรงงานนรกในเมืองเนเปิลส์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิตสินค้าให้แบรนด์หรูหลายเจ้า

ข่าวนี้รายงานว่าตำรวจอิตาลีจับกุมนายวินเชนโซ คาเปซซูโต ประธานบริษัท Moreno ข้อหาจ้างงานอย่างผิดกฏหมายและลักพาตัว ซึ่งทีมสืบสวนบุกค้นโรงงานผลิตเครื่องหนังในย่านเมลิโต เป็นเขตอุตสาหกรรมชานเมืองเนเปิลส์ ทางตอนใต้ของอิตาลี และพบกลุ่มผู้อพยพจำนวนมาก รวมทั้งหญิงมีครรภ์และวัยรุ่นซ่อนตัวอยู่ในโรงงานดังกล่าว แต่ทางทนายของนายวินเชนโซปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

ทั้งนี้ รอยเตอร์สรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท Moreno รับจ้างผลิตเครื่องหนัง จำพวกรองเท้า กระเป๋าให้กับแบรนด์หรูมากมาย อาทิ จอร์โจ อาร์มานี แซง โลรองต์ และเฟนดิ ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์กล่าวว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท Moreno และว่าจะร่วมมือในการตรวจสอบบริษัทรับจ้างผลิตอื่นๆหากพบการกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน

คำในข่าวสัปดาห์นี้ เห็นคำที่น่าสนใจในพาดหัวข่าว คือ sweatshop เป็นคำนามที่ให้ความหมายเชิงลบ ใช้เรียกโรงงาน หรือสถานที่ทำงานที่มีสภาพแวดล้อมเลวร้าย พบการกดขี่ ความไม่เป็นธรรมกับคนงาน เช่น ใช้งานหนัก กดค่าแรง รวมทั้งให้ทำงานเสี่ยงอันตราย สั้นๆเข้าใจง่ายก็อาจใช้ว่าโรงงานนรกก็ไม่ผิดอะไร

ขยายความต่อเรื่องการทำงาน ชีวิตการทำงานบางครั้งอาจจะมีช่วงเวลาที่ทำงานหนักกันบ้าง ซึ่งเราก็จะเห็นคำที่ใช้บ่อยอย่าง work hard แปลตรงตัวคือทำงานหนัก ซึ่งสามารถให้ความหมายเชิงบวกว่าขยันทำงานได้ ซึ่งเราเขียนเป็นคุณศัพท์ได้ว่า hard-working

แต่หากการทำงานหนักที่ให้ความหมายไม่สู้ดีนัก เราอาจใช้คำอื่นได้ว่า overwork เวลาเราเติม over ไปส่วนใหญ่มักจะให้ความหมายมากเกินไป ในที่นี้ให้ความหมายว่า ทำงานหนักเกินไป อีกคำหนึ่งคือนำ back- breaking เป็นคุณศัพท์ที่หมายถึง เหนื่อยมาก, ใช้แรงงานมาก ไปขยาย จะได้ว่า back-breaking work ดูคร่าวๆ ก็พอเข้าใจได้ว่า ทำงานหนักจนหลังจะหัก แปลให้สละสลวยหน่อยอาจจะใช้ว่า เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดก็ได้ และสามารถใช้ว่า grueling, exhausting, strenuous ให้ความหมายว่าเหนื่อยยาก, อาบเหงื่อต่างน้ำ

แล้วถ้าทำงานแบบได้เงินน้อย จะใช้ว่า underpaid เป็นคุณศัพท์ตรงตัวคือได้เงินน้อยกว่างานที่ทำไป หรือจะใช้ว่า paid unfairly หมายถึงได้รับค่าจ้างไม่เป็นธรรมก็ได้

แต่ถ้าทำงานไปแล้วไม่มีใครเห็นคุณค่าของงานที่ทำเลย อาจใช้ว่า unappreciated หมายถึง ไม่ได้รับความชื่นชม, underappreciated หมายถึง ต่ำต้อยด้อยค่า, thankless หมายถึง ไร้การขอบคุณ, overlooked หมายถึง ถูกมองข้าม, unrecognized หมายถึงไม่ได้รับการยอมรับ และ unnoticed ไม่เป็นที่สนใจ หรือจะใช้วลีที่ว่า taken for granted หมายถึงไม่เห็นคุณค่า, ถูกมองว่าเป็นของตาย

ส่งท้ายด้วยคำคมบาดจิต จากนักเขียน Nishan Panwar ที่ว่า “Even the most caring people can get tired of being taken for granted.” หมายถึง แม้คนที่ใส่ใจผู้อื่นอย่างที่สุด ก็อาจจะเหนื่อยใจได้ เมื่อคุณไม่เห็นคุณค่าเขาหรือเห็นเขาเป็นของตาย ... สั้นๆ คือ “งานหนักไม่เคยฆ่าใคร แต่การไม่ได้รับความใส่ใจอาจฆ่าเรา”

ขอขอบคุณที่มาบทความอย่างสูง จาก
คุณ นีธิกาญจน์ กำลังวรรณ(Neetikarn Kamlangwan)
www.voathai.com