สวัสดีครับ นักศึกษา ผมก็จะขยายความ ต่อจากครั้งที่แล้วเพื่อให้นักศึกษามองเห็นภาพชัดมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้กริยาช่วยในกรณีต่าง ๆ
การสร้างประโยคปฏิเสธด้วย "not" กรณี Simple Present Tense กับ Simple Past Tense
ในกรณีที่ Tense นั้น ไม่มีกริยาช่วย เมื่อจะปฏิเสธให้ใช้ do หรือ does เข้ามาสร้างประโยคยกตัวอย่างประโยค
• “I work on the weekends.” (simple present tense)
(ฉันทำงานในสุดสัปดาห์)
✖ “I work not on the weekends.”
✔ “I do not work on the weekends.” (ฉันไม่ทำงานในสุดสัปดาห์)
• “She lives in the city.” (หล่อนอาศัยในเมือง)
✖ “She lives not in the city.”
✔ “She does not live in the city.” (หล่อนไม่อาศัยในเมือง)
สังเกตว่า do จะเปลี่ยนรูปเมื่อประธานเป็น บุรุษที่ 3 เอกพจน์ ส่วนกริยาหลัก ก็จะเปลี่ยนไปเป็นรูปเดิม
• “He studied in Europe.” (simple past tense)
(เขาได้ศึกษาในยุโรป)
✖ “He studied not in Europe.”
✔ “He did not study in Europe.”
(เขาไม่ได้ศึกษาในยุโรป)
ใช้ did not เข้ามาช่วยปฏิเสธ ในกรณีเป็น simple past tense
การสร้างประโยคปฏิเสธด้วย "not" กรณีเป็น Tense อื่น ๆ
• “I am working later.” (present continuous tense)• “I am not working later.”
• “She had been living there for a month.” (past perfect continuous tense)
• “She hadn’t been living there for a month.”
• “They will have been writing their dissertations for almost a year.” (future perfect continuous tense)
• “They will not have been writing their dissertations for almost a year.”
จะสังเกตเห็นว่า เราจะวาง not ไว้หลังกริยาช่วยตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดกับประธาน
ข้อผิดพลาดในการใช้ have not
นักศึกษาต้องจำไว้เสมอว่า เราจะใช้ do not หรือ does not กรณี Present Simple Tense เสมอ
ยกตัวอย่างประโยค
• “I have a dog.” (ฉันมีสุนัข 1 ตัว)
✖ “I haven’t a dog.”
✔ “I don’t have a dog.”
✖ “She hasn’t a cat.”
✔ “She doesn’t have a cat.”
เนื่องจาก กริยา have / has แปลว่า "เป็นเจ้าของ" และเป็นกริยาหลักของประโยค ในรูปปฏิเสธต้องนำกริยา do หรือ does เข้ามาช่วยเสมอ
ยกตัวอย่างประโยค กรณีเป็น Past Simple Tense
• “I had a car.” (ฉันได้มีรถ 1 คัน)
✖ “I hadn’t a car.”
✔ “I didn’t have a car.”
สังเกตว่า รูปอดีตใช้ did not ในขณะที่ had เปลี่ยนกลับไปสู่รูปเดิม คือ have
การปฏิเสธ have กับ have got
ในภาษาอังกฤษ การบอกว่า มี หรือ ครอบครอง สามารถใช้ได้ทั้ง have กับ have got แต่การใช้ have got เป็นทางการน้อยกว่า และสามารถใช้แทนกันได้แม้ว่าจะไม่ทุกกรณี
ยกตัวอย่างประโยค
• “He has got an idea about what happened.” (present simple tense)
(เขามีแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้น)
• “He hasn’t got an idea about what happened.” (รูปปฏิเสธ)
จากตัวอย่าง กริยา has ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยค เราสามารถใช้ not วางหลังกริยาช่วยได้เลย
• “They’ve got a plan to increase sales.”
(พวกเขามีแผนที่จะเพิ่มยอดขาย)
• “They haven’t got a plan to increase sales.”
การนำกริยาช่วยมาสร้างเป็นประโยคคำถาม
1. ใช้กริยา do มาช่วยสร้างประโยคคำถามกรณีเป็น present simple tense
ยกตัวอย่างประโยค
• “John works across town.”
• “Does John work across town?”
กรณีเป็น past simple tense
ยกตัวอย่างประโยค
• “They lived in an apartment.”
• “Did they live in an apartment?”
ยกตัวอย่างประโยค
• “They lived in an apartment.”
• “Did they live in an apartment?”
2. การใชกริยา be และ have กับ Tense อื่น ๆ
Present continuous tense:
• “John is working across town.” (ประโยคบอกเล่า)
• “Is John working across town?” (ประโยคคำถาม)
Past continuous tense:
• “John was working across town.” (ประโยคบอกเล่า)
• “Was John working across town?” (ประโยคคำถาม)
Present perfect tense:
• “John has worked across town for a long time.” (ประโยคบอกเล่า)
• “Has John worked across town for a long time?” (ประโยคคำถาม)
Past perfect tense:
• “John had worked across town for a long time.” (ประโยคบอกเล่า)
• “Had John worked across town for a long time?” (ประโยคคำถาม)
Present perfect continuous tense:
• “John has been working across town for a long time.” (ประโยคบอกเล่า)
• “Has John been working across town for a long time?” (ประโยคคำถาม)
Past perfect continuous tense:
• “John had been working across town for a long time.” (ประโยคบอกเล่า)
• “Had John been working across town for a long time?” (ประโยคคำถาม)
การใช้ที่ผิดพลาดกับ have
จากที่ผมเคยยกตัวอย่างมาแล้วว่า ในการสลับกริยา have กับประธานนั้น จะใช้ได้เมื่อ กริยา have ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย แต่ถ้ากริยา have ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก เราจะต้องใช้กริยา do มาช่วยในการสร้างเป็นประโยคคำถาม
ยกตัวอย่างประโยค
• “You had a car when you lived in London.” (ประโยคบอกเล่า)
(คุณได้มีรถ 1 คัน ตอนที่คุณอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน)
✖ “Had you a car when you lived in London?”
✔ “Did you have a car when you lived in London?” (ประโยคคำถาม)
การสลับตำแหน่งของกริยา be กรณี be เป็นกริยาหลัก
เรื่องนี้ถือว่า เป็นกรณียกเว้นเมื่อกริยา be เป็นกริยาหลัก หรือทำหน้าที่เป็นกริยาเชื่อม (Linking Verb) การเปลี่ยนเป็นประโยคคำถาม ไม่ต้องใช้ do หรือ does เข้ามาช่วย
พิจารณาตัวอย่างประโยค
• “I am cold.” (ประโยคบอกเล่า)
(ฉันหนาว)
✖ “Do you be cold?”
✔ “Are you cold?” (ประโยคคำถาม)
(คุณหนาวไหม)
• “They were all present.” (ประโยคบอกเล่า)
(พวกเขาอยู่ทั้งหมด)
✖ “Did they be all present?”
✔ “Were they all present?” (ประโยคบอกเล่า)
กรณีใช้กับคำถามชนิดอื่น รูปแบบการสลับก็เหมือนเดิม
• “Why are you cold?”
• “When were they all present?”
• “Who is attending the party?”
การใช้กริยา do เพื่อสร้างประโยคที่เน้นความชัดเจน (emphatic sentences)
นอกจากเราใช้กริยา do ในการสร้างประโยคคำถามแล้ว เราสามารถใช้กริยา do เป็นกริยาช่วยเพื่อสร้างประโยคที่เน้นย้ำการกระทำ หรือที่เรียกว่า emphatic mood
พิจารณาตัวอย่างประโยค
• “I washed the dishes.” (ประโยคไม่เน้น)
(ฉันได้ล้างจานนั้น)
• “I did wash the dishes.” (ประโยคเน้นความชัดเจน)
(ฉันได้ล้างจานนั้น)
กรณีนี้เราใช้ did เข้ามาช่วย ส่วนกริยาหลักเปลี่ยนไปเป็นรูปเดิม ความหมายของประโยคยังคงเดิม แต่เป็นการเน้นให้ทราบว่า ผู้พูดเป็นผู้ทำสิ่งนั้นอย่างแน่นอน
• “He looks like an honest man.” (ประโยคไม่เน้น)
(เขาดูเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์)
• “He does look like an honest man.” (ประโยคเน้นความชัดเจน)
ยกเว้นกรณีนี้
• “I am cold.” (ประโยคไม่เน้น)
(ฉันหนาว)
✖ “I do be cold.”
การใช้กริยา do เพื่อสร้างประโยค คำสั่ง ขอร้อง (imperative sentences)
เราจะพบว่า มีการใช้กริยา do มาช่วยในการสร้างประโยคคำสั่ง ประโยคให้คำแนะนำ หรือประโยคขอร้อง ได้
พิจารณาตัวอย่างประโยค
• “Do be careful!” (จงระวัง!)
• “Do try to be quiet.” (แนะนำให้อยู่ในความสงบ)
• “Please do avoid walking on the grass.” (โปรดหลีกเลี่ยงการเดินบนหญ้า)
สรุปจากทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมานั้น นักศึกษาพอจะเข้าใจคร่าว ๆ แล้วว่า เราสามารถใช้กริยาช่วย be, do, และ have ได้ในกรณีใดบ้าง หัวข้อถัดไปผมก็จะขยายความ การใช้กริยาช่วยกลุ่มที่เรียกว่า Modal Auxiliary Verb เป็นลำดับต่อไปครับ สวัสดีครับ
เรียบเรียงโดย
- ติวเตอร์แบงค์
- สถาบันติว PERFECT ซ.รามคำแหง 43/1
- ติวเตอร์ประจำวิชา ENG, ENS, CEN2101, CEN2102, APR2101
- ติดต่อติวเตอร์ โทร. 081-7269394 Line ID : sjbank
- Brinton, Laurel J. & Donna M. Brinton. 2010. The linguistic structure of Modern English, 2nd edn. Amsterdam: John Benjamins Publishing Company.
- Hopper, Paul J. 1999. A short course in grammar. New York: W. W. Norton & Company.
- Huddleston, Rodney. 1984. Introduction to the grammar of English. Cambridge: Cambridge University Press.
- Raymond Murphy. 2019. English Grammar in Use, Cambridge University Press; 5 edition (24 Jan. 2019).
- Marianne Celce-Murcia (Author), Donna M. Brinton. 2013. Teaching English as a Second or Foreign Language. Cengage Learning, 4th edition.
- Peter Huring. 2016. Complete English Grammar Rules - Examples, Exceptions & Everything You Need to Master Proper Grammar by Farlex International.
0 ความคิดเห็น