ความหมายของนามกลุ่ม มีกี่ประเภท ข้อยกเว้นเรื่องนามกลุ่ม

สวัสดีครับท่านผู้ชม ยังไปไม่ถึงไหนครับ เรื่อง คำนาม(Nouns) ยังไม่หมด สำหรับการยกตัวอย่างประโยค หรือมีคำศัพท์นั้น ผมจะไม่สามารถแปลเป็นไทยให้ทั้งหมด โดยจะเลือกแปลเฉพาะส่วนที่สำคัญเท่านั้น สำหรับเรื่องการแปลความ การตีความหมายศัพท์ ศัพท์เฉพาะทาง พวกสำนวนต่าง ๆ คงจะต้องทำแยกออกไปอีกหมวดหนึ่งครับ หลายคนเจอศัพท์ภาษาอังกฤษเฉพาะสาขา ก็ไม่สามารถเข้าใจได้เหมือนกัน ถึงแม้คุณจะมีพื้นฐานไวยากรณ์อยู่ในระดับสูงก็ตาม เพราะไม่มีใครรู้ไปหมดทุกเรื่อง รวมทั้งผมเองก็มีความรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ แต่หมวดนี้ ผมขอบรรยายเกี่ยวกับไวยากรณ์ หรือ Grammar เพียงอย่างเดียว นะครับ

หัวข้อที่จะกล่าวถึงก็จะต่อเนื่องจาก ตอนที่ 5 ส่วนจะมีอะไรบ้าง โปรดติดตามรับชม มีดังต่อไปนี้ 

กรณียกเว้น เกี่ยวกับมาตรวัด (ระยะทาง เวลา และ จำนวน) 

พิจารณาต้วอย่างประโยคต่อไปนี้
$20,000 have  been credited to your account.”
$20,000 has been credited to your account.”
(จำนวนเงิน 20,000 เหรีญได้ถูกเพิ่มในบัญชีของคุณแล้ว)
จำนวนเงินถึงแม้ว่ามาก แต่ในทางไวยากรณ์จะนับเป็นหน่วยเดียว กริยาจึงเป็น has (รูปเอกพจน์)
“I think 50 miles are too far to travel on foot.”
“I think 50 miles is too far to travel on foot.”
(ฉันคิดว่า 50 ไมล์ มันไกลเกินที่จะเที่ยวโดยการเดินเท้า)
ระยะทาง ถึงแม้ว่ามาก แต่ในทางไวยากรณ์จะนับเป็นหน่วยเดียว กริยาจึงเป็น is (รูปเอกพจน์)
“Wow, two hours fly by when you’re having fun!”
“Wow, two hours flies by when you’re having fun!”
(เว้า, 2 ชั่วโมง บิน ช่างเป็นระยะเวลาที่คุณมีความสนุก!)

การทำให้นามที่นับไม่ได้เป็นรูปคำนามที่นับได้ 

ในกรณีที่เราต้องการที่จะระบุนามนับไม่ได้ ให้มีความหมายที่เฉพาะมากขึ้น เราจะเป็นต้องเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น
พิจารณาตัวอย่างประโยค
• “Can I give you advice?”
• “Can I give you some advice?”
ถ้าเราจะพูดว่า "ฉันสามารถให้คำแนะนำคุณได้ไหม"  เป็นลักษณะทั่ว ๆ ไป (advice เป็นนามนับไม่ได้)
แต่ถ้าเราต้องการเน้นว่า เราต้องการให้คำแนะนำที่เป็น แง่มุมหรือด้านใด โดยเฉพาะ
เราไม่สามารถใช้ ประโยค ว่า “Can I give  you an  advice?” (เพราะ an ใช้กับ advice ไม่ได้)
ประโยคที่สามารถใช้แทนก็คือ
  “Can I give you a piece of advice?”
การเพิ่ม piece of เป็นการทำให้คำนามที่นับไม่ได้ กลายเป็นคำนามที่นับได้ ครัับ
✔ “Can I give you a few pieces of advice?”
เป็นการระบุว่า คำแนะนำนั้น มีลักษณะเฉพาะ และมีหลายแง่มุม (สามารถนับได้)

การใช้คำบ่งชี้ปริมาณ สำหรับคำนามที่นับไม่ได้ 

สำหรับคำบ่งชี้ปริมาณ เราเรียกว่า Quantifiers (เป็นชนิดของ Determiner) สามารถนำมาใช้กับคำนามที่นับไม่ได้เท่านั้น โดยเรื่อง Determiner ผมจะอธิบายลงลึกไว้อีกบทครับ

การใช้ Too – Too Much – Too Many 

คำว่า "too" แปลว่า เกินไป
เราจะใช้ too + adjective (คำคุณศัพท์) เช่น
• “It is too big.” (มันใหญ่เกินไป)
คำว่า too much แปลว่า มากเกินไป
เราจะใช้ too much ขยายคำนามที่นับไม่ได้
คำว่า too many แปลว่า มากเกินไป
เราจะใช้ too many ขยายคำนามที่นับได้
พิจารณาตัวอย่างประโยค
“It is too much big.” (มันใหญ่มากเกินไป)
“It is too many big.”
เหตุผลที่ผิดตามที่ผมบอกไว้แล้วว่า too much กับ too many ขยายคำคุณศัพท์ "big" ไม่ได้ ที่ถูกคือ
• “It is much too big.” (มันใหญ่เกินไปมาก)
แต่ much ในที่นี้ทำหน้าที่เป็น adverb ขยาย too ครับ
พิจารณาตัวอย่างประโยค
“I have too much pieces of furniture.”
“I have too many pieces of furniture.” (ฉันมีเฟอร์นิเจอร์เป็นจำนวนที่มากเกินไป)
เพราะว่า pieces of furniture กลายเป็นคำนามที่นับได้ไปแล้ว เราจึงใช้ too much ขยายไม่ได้
“I have too many furniture.”
“I have too much furniture.”
แต่กรณีนี้ คำว่า furniture อยู่ในรูปของคำนามที่นับไม่ได้ เราจึงใช้ too many ไปขยายไม่ได้
หวังว่านักศึกษาคงไม่สับสนกันนะครับ ถ้าสับสนก็ให้ไปอ่านหัวข้อที่ผ่าน ๆ มาอีกรอบ ก็จะเข้าใจเอง

การใช้ Fewer กับ Less เพื่อบ่งชี้ปริมาณ 

คำว่า fewer แปลว่า น้อยกว่า ใช้กับคำนามที่นับได้
คำว่า less แปลว่า น้อยกว่า ใช้กับคำนามที่นับไม่ได้
พิจารณาตัวอย่างประโยค
“I have less friends than Jill has.”
“I have fewer friends than Jill has.” (ฉันมีเพื่อนน้อยกว่าที่จิลล์มี)
เนื่องจาก friends เป็นคำนามที่นับได้ เราจึงใช้ less ไม่ได้
“I have fewer money than he has.”
“I have less money than he has.” (ฉันมีเงินน้อยกว่าที่เขามี)
เพราะว่า money(เงิน) เป็นคำนามที่นับไม่ได้ เราจึงต้องใช้ less นั่นเอง
พิจารณาตัวอย่างประโยค
• “I want less toast.” (toast เป็นคำนามที่นับไม่ได้) "ฉันต้องการขนมปังปิ้งน้อยกว่า"
• “I want fewer pieces of toast.” (pieces of toast เป็นคำนามที่นับได้)
• “There is less water in the jug.” (water เป็นคำนามที่นับไม่ได้)
• “There are fewer cups of water in the jug.” (cups of water เป็นคำนามที่นับได้)
การใช้ Less ในกรณีที่เกี่ยวกับ หน่วยวัด ระยะทาง เวลา และจำนวน
• “$20,000 is less than we expected to pay.”
• “We walked less than 50 miles to get here.”
• “We have less than two hours to finish this project.”
• “I weigh 20 pounds less than I used to.”
กรณียกเว้น ห้ามใช้ less นำหน้าคำนามชนิดนี้
“We have less $20,000.”
“I ran less 10 miles.”
เนื่องจากว่า คำว่า less มีการนำมาใช้กับคำนามที่นับได้ เช่น
• “That is one less problem to worry about.” หรือ
• “That is one problem fewer to worry about.”

Collective Nouns (คำนามที่จัดเป็นกลุ่ม) 

นิยามคำว่า Collective Nouns อ้างอิงถึง นามที่เป็นชุดหรือกลุ่ม ของ คน สัตว์ สิ่งของ ที่มีปริมาณมากมาย อย่างไรก็ตาม Collective Nouns ถึงแม้จะมีจำนวนมาก แต่ในทางไวยากรณ์เราจะนับเป็นหน่วยเดียว หรือ เป็นรูปคำนามเอกพจน์ ครับ ก็เพราะว่าเป็นการอ้างถึงสิ่งเดียว ที่มีฐานะเป็นกลุ่ม หรือทั้งหมด ยกตัวอย่าง คำนามที่ใช้สำหรับอ้างอิงว่าเป็นกลุ่ม
  • collection – หมายถึง ชุด (ซึ่งข้างในประกอบด้วยหลายสิ่งที่เหมือนกัน แล้วนำมามัดรวมกันเป็นชุด เช่น ชุดภาพวาด คำว่า ชุด จึงนับเป็นหน่วยเดียว
  • tribe – หมายถึง เผ่าพันธุ์ (นับเป็นหน่วยเดียว ข้างในจะประกอบด้วยสมาชิกของเผ่า)
  • fleet – หมายถึง ฝูงยานพาหนะ(ข้างในจะประกอบด้วยยานพาหนะ เช่น เรือ)
  • band – หมายถึง วงดนตรี (ภายในวงตนตรีจะประกอบด้วยสมาชิกนักดนตรีต่าง ๆ)
พิจารณาตัวอย่างประโยค 
• “The flock of birds flew south for the winter.”(flock of birds - ฝูงของนก)
• “The  organization  voted  to  revoke the  rules  that  it had  previously approved.”(organization-องค์กร)
• “The set of tablecloths had disappeared. ”  (set of tablecloths - ชุดของผ้าปูโต๊ะ)

ความเหมือนกันระหว่าง นามกลุ่ม กับ นามพหูพจน์ 

Collective  nouns มีความหมายเหมือนคำนามรูปพหูพจน์มาก แต่คำนามรูปพหูพจน์(Plural nouns) โดยส่วนใหญ่แล้ว จะลงท้ายด้วย “-s,” “-es,” หรือ “-ies.” ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากคำนามรูปเอกพจน์ ยกตัวอย่างรูปคำนามพหูพจน์
dogs - สุนัข (หลายตัว)
cities - เมือง (หลายเมือง)
tables - โต๊ะ (หลายตัว)
oceans - มหาสมุทร (หลายแห่ง)
เป็นต้น
ความแตกต่างกัน คือ Collective  nouns เราจะนับเป็นหน่วยเดียว ในขณะที่คำนามพหูพจน์ หมายถึง หลาย ๆ หน่วย แต่ความหมายเหมือนกัน คือ มากสิ่ง จึงต่างกันแค่วิธีการระบุหรือรวบรวม หรือการแจกแจง นั่นเองครับ
พิจาณาตัวอย่างประโยค
• “The musicians played the song beautifully.” (บรรดานักดนตรีเล่นเพลงอย่างไพเราะ)
ที่ใช้คำว่า musicians เพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่า มีนักดนตรีหลายคน
• “The orchestra played the song beautifully.” (วงดนตรีเล่นเพลงอย่างไพเราะ)
ประโยคนี้จะเห็นได้ว่า คำว่า orchestra เป็นคำนามกลุ่ม เพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่า มีกลุ่มของนักดนตรี ที่เล่นเพลงอย่างไพเราะ อย่างไรก็ตาม คำว่า  musicians หมายถึง นักดนตรีทั้งหลาย แต่ไม่ได้รวมกันเป็นชุดหรือกลุ่มที่ชัดเจน แต่คำว่า orchestra หมายถึง บรรดานักดนตรีที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มโดยเฉพาะ
พิจารณาตัวอย่างประโยค เพิ่มเติม
• “The soldiers marched very swiftly.” (บรรดาทหารเดินขบวนอย่างคล่องแคล่ว)
กรณีนี้ คำว่า soldiers เป็นคำนามรูปพหูพจน์
• “The platoon marched very swiftly.” (กองทหารเดินขบวนอย่างคล่องแคล่ว)
กรณีนี้ คำว่า platoon (กองทหาร) เป็นคำนามชนิดกลุ่ม
แต่ทั้งนี้ คำว่า soldiers และ platoon หมายถึง ทหารหลายนาย เพียง platoon หมายถึง ทหารที่มีการจัดเป็นกองหรือหน่วย นั่นเองครับ

การใช้นามกลุ่มในรูปเอกพจน์ กับ รูปพหูพจน์

จากที่ผมกล่าวมา นามชนิดกลุ่ม จะมีรูปเป็นเอกพจน์ แต่ในบางกรณีเราก็สามารถหมายถึงเป็นรูปพหูพจน์ ได้ โดยพิจรณาจาก การผันของกริยาในประโยค เช่น
• “The offense hopes to score a touchdown on its next play.”
ประโยคนี้ คำว่า offense หมายถึง กองหน้าหรือหน่วยโจมตี เป็นรูปเอกพจน์ สังเกตที่กริยาจะเติม "-s"
และใช้สรรพนามแทนด้วย its เพื่อบอกว่า เป็นเอกพจน์
• “The jury eat their lunches before they deliberate.”
(คณะลูกขุนรับประทานอาหารกลางวันของพวกเขาก่อนที่พวกเขาพิจารณาคดี)
ประโยคนี้ คำว่า jury แปลว่า คณะลูกขุน มีความหมายเป็นพหูจน์ ดูจากกริยา eat และ ใช้สรรพนามแทน jury ด้วย their และ they แสดงว่า คณะลูกขุน อาจจะมีการแบ่งออกเป็นหลายชุด นั่นเอง

คำนามกลุ่มที่เป็นรูปพหูพจน์ได้เท่านั้น

มีข้อยกเว้น เกี่ยวกับคำนามกลุ่มที่ใช้เป็นรูปพหูพจน์เท่านั้น ยกตัวอย่าง
  “The police is investigating the matter.”
“The police are investigating the matter.” (เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนคดี)
แต่ถ้าต้องการระบุว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายเดียว จะใช้ว่า
• “A police officer is investigating the matter.”
ตัวอย่างของคำนามกลุ่ม ที่เป็นรูปพหูพจน์เท่านั้น เช่น
  • people - ประชาชน
  • children - บรรดาเด็ก ๆ 
  • poultry - บรรดาสัตว์ปีก
  • vermin - บรรดาพยาธิ
  • cattle - บรรดาวัว ควาย
ต้องระวังกันนะครับ เวลาไปทำข้อสอบเข้าหน่วยงานราชการต่าง ๆ โดนหลอกกันเยอะ

คำนามกลุ่มเกี่ยวกับฝูงสัตว์ 

มีคำนามกลุ่มที่เกี่ยวกับฝูงสัตว์ จำนวนมาก แต่ในที่นี้ผมจะขอยกมาเฉพาะที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เช่น
  • flock of birds - ฝูงของนก เราเรียก flock
  • pod of whales - ฝูกของวาฬ เราเรียก pod 
  • pack of wolves - ฝูงหมาป่า เราเรียก pack
  • pride of lions - ฝูงสิงโต เราเรียก pride
  • gaggle of geese - ฝูงของห่าน เราเรียก gaggle
  • band of coyotes - ฝูงของโคโยตี้(สัตว์) เราเรียก band
  • gatling of woodpeckers - ฝูงนกหัวขวาน เราเรียก gatling
  • huddle of penguins - ฝูงนกเพนกวิน เราเรียก huddle
  • mob of kangaroos - ฝูงจิงโจ้ เราเรียก mob
  • school of fish - ฝูงปลา เราเรียก school
สำหรับโพสท์นี้ ขอจบไว้ประมาณนี้ ครับ คราวต่อไปผมจะพูดถึง Compound Nouns (คำนามผสม) อย่างละเอียดครับ โปรดติดตามตอนต่อไป วันนี้ปวดตามากแล้ว ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสโน้นด้วย 

เรียบเรียงโดย
  • ติวเตอร์แบงค์
  • สถาบันติว PERFECT ซ.รามคำแหง 43/1
  • สถาบันติว THE BEST CENTER ซ.รามคำแหง 43/1
  • ติวเตอร์ประจำวิชา ENG, ENS, CEN2101, CEN2102, APR2101
  • ติดต่อติวเตอร์ โทร. 081-7269394 Line ID : sjbank
เอกสารอ้างอิง
  1. Brinton, Laurel J. & Donna M. Brinton. 2010. The linguistic structure of Modern English, 2nd edn. Amsterdam: John Benjamins Publishing Company.
  2. Hopper, Paul J. 1999. A short course in grammar. New York: W. W. Norton & Company.
  3. Huddleston, Rodney. 1984. Introduction to the grammar of English. Cambridge: Cambridge University Press.
  4. Peter Huring. 2016. Complete English Grammar Rules - Examples, Exceptions & Everything You Need to Master Proper Grammar by Farlex International.
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 28 พ.ย. 2562